สาเหตุและวิธีดูแลริดสีดวง

     ริดสีดวงเป็นโรคใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยมีอาการเป็นติ่งเล็กๆ บริเวณรูทวาร ทำให้รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากขณะขับถ่าย นอกจากนี้ยังมีผลต่อชีวิตประจำวัน ในบางรายอาจรู้สึกเจ็บจนถึงขนาดนั่งไม่ได้เลยทีเดียว โดยอาการจะแบ่งไปตามระยะดังนี้

     จากการสำรวจโดยสถานบริการกระทรวงสาธารณสุข มีผู้ป่วยที่เป็นริดสีดวงทวารและมีอาการผิดปกติของระบบขับถ่าย จะเห็นได้ว่าในแต่ละปีมีผู้ป่วยริดสีดวงทวารเป็นจำนวนมาก และมีอัตราการเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี

            

     ริดสีดวงนั้นมีสาเหตุมาจากการเกิดความผิดปกติที่หลอดเลือดดำ ทำให้บริเวณนั้นเกิดเลือดไปคั่งอยู่จนกลายเป็นติ่งยื่นออกมาในที่สุด

     ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของหลอดเลือดดำนั้นเป็นปัจจัยสำคัญของโรคนี้ เมื่อเกิดการเสียดสีอย่างรุนแรงเป็นสาเหตุที่ทำให้หลอดเลือดดำบริเวณรูทวารอ่อนแอลงและปูดพอง ยกตัวอย่างเช่น การอั้นอุจจาระไว้นาน ดื่มน้ำน้อย รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ท้องผูก อุจจาระแข็งและก้อนใหญ่ เมื่อถึงเวลาขับถ่าย อุจจาระจะไปเสียดสีเข้ากับรูทวารอย่างรุนแรงจนเกิดแผล

      ในผู้ป่วยบางรายนั้นมีอายุมาก หลอดเลือดดำเริ่มเสื่อมสภาพลงตามอายุขัย แต่ในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า 50ปี นั้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพบ่อยครั้ง เช่น อาหารทอดที่มีไขมันสูง ทำให้ไขมันอุดตันและเลือดไหลเวียนไม่สะดวกทำให้หลอดเลือดอ่อนแอ

นอกจากนี้แล้ว สาเหตุการเกิดริดสีดวงทวารนั้นยังส่งผลมาจากพฤติกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และปัจจัยอื่นๆ โดยสรุปเป็นปัจจัยต่างๆ ได้ดังนี้

   - ไม่กินผัก หรืออาหารที่มีกากใย

   - ดื่มเครื่องดื่มที่มีแต่น้ำตาล เช่น ชานม กาแฟ น้ำอัดลม ฯลฯ ทุกๆวัน เป็นเวลานานๆ

   - ทานอาหารหมักดอง  เช่น ผลไม้ดอง ปลาร้า ปลาเค็ม กระปิ

   - ทานอาหารรสจัด เค็มจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ที่ให้กระเพาะอาหารและลำใส้ทำงานหนัก

   - ดื่มน้ำน้อย ทำให้ลำใส้แห้ง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของโรคท้องผูก

    - ชอบเบ่งอุจจาระอย่างรุ่นแรง ทำให้แรงดันในช่องท้องสูงขึ้น

    - เล่นโทรศัพย์มือถือในห้องน้ำ ทำให้เราเข้าห้องน้ำนานและ เบ่งแรงๆนานๆโดยไม่รู้ตัว

    - ท่านั่งขับถ่ายที่เปลี่ยนไป ไม่เหมือนสมัยก่อนที่จะเป็นท่านั่งยองๆ ทำให้หูรูดเปิดกว้าง
      มากที่สุดไม่เหมือนการนั่งชักโครก

     - ยกของหนักเป็นประจำ

     - ไม่ค่อยออกกำลังกาย นั่ง ๆ นอน ๆ ควรออกกำลังการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลำไส้มี
       การเคลื่อนไหว และทำงานได้ดีขึ้น